สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของรัฐควีนส์แลนด์ (CTP)

ในรัฐควีนส์แลนด์ พระราชบัญญัติการประกันภัยอุบัติเหตุทางรถยนต์ พ.ศ. 2537 (รัฐควีนส์แลนด์) ได้จัดให้มีระบบค่าสินไหมทดแทนสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทราบ มีดังต่อไปนี้

ขั้นตอนแรก

ทันทีหลังจากการเกิดอุบัติเหตุ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องโทรศัพท์แจ้งตำรวจหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย หรือหากผู้ขับขี่รายอื่นไม่ยอมหยุดรถหรือไม่ยอมให้รายละเอียดใด ๆ กับคุณเลย การออกจากที่เกิดเหตุโดยไม่แลกเปลี่ยนข้อมูลกับฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้คุณลำบากมากขึ้นหากคุณต้องการทำเรื่องขอค่าสินไหมทดแทน

ต่อมา เป็นสิ่งสำคัญที่บุคคลใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุอันร้ายแรงจนได้รับบาดเจ็บควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด แม้ว่าระดับของของการบาดเจ็บอาจไม่ปรากฏชัดในทันที แต่สิ่งนี้จะทำให้มีการบันทึกการบาดเจ็บที่บุคคลได้รับในระหว่างเกิดอุบัติเหตุ

การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ตามหลักกฎหมายทั่วไป

เจ้าของยานยนต์ทุกคนในออสเตรเลียจะต้องทำประกันภาคบังคับของบุคคลที่สาม หรือที่เรียกว่า Compulsory third party insurance (CTP) เพื่อป้องกันความรับผิดต่อการเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บของผู้อื่นที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของเรา

หากบุคคลใดได้รับบาดเจ็บอันเป็นผลจากการขับขี่โดยประมาทของยานพาหนะที่ไม่ปรากฏชื่อหรือไม่มีประกันภัย ท่านนั้นสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยที่เป็นบุคคลธรรมดาได้ ข้อสำคัญคือหากรถไม่มีประกันภัย อุบัติเหตุจะต้องเกิดขึ้นบนถนนหรือในที่สาธารณะเพื่อให้จำเลยที่เป็นบุคคลต้องรับผิด

ภายใต้พระราชบัญญัติการประกันภัยอุบัติเหตุทางรถยนต์ พ.ศ. 2537 (รัฐควีนส์แลนด์) บุคคลสามารถรับค่าสินไหมทดแทนผ่านการเรียกร้องค่าเสียหายจากความประมาทเลินเล่อสำหรับการบาดเจ็บส่วนบุคคลหรือการเสียชีวิตโดยมิชอบ บุคคลสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้หาก:

• พวกเขาได้รับบาดเจ็บ

• การบาดเจ็บของพวกเขาเกิดจากความผิดพลาดของคนขับคนอื่น

• อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่รัฐควีนส์แลนด์

ตัวอย่างความประมาทเลินเล่อของผู้ขับขี่ ได้แก่:

• จากการใช้ยาและแอลกอฮอล์

• จากความเหนื่อยล้า

• จากการขับขี่อย่างรวดเร็ว

• จากการขับรถแบบไม่มีสมาธิ (การเบี่ยงเบนความสนใจด้วยตนเอง (เช่น การส่งข้อความ) การเบี่ยงเบนความสนใจจากการมองเห็น (การดูหน้าจอมือถือแทนถนน) หรือการเบี่ยงเบนความสนใจทางความคิด (เช่น การพูดคุยกับผู้อื่น แม้กระทั่งคุยผ่านหูฟัง)

• จากการมีกระบะท้าย

ในส่วนของการเรียกร้องค่าเสียหาย ผู้เสียหายที่เข้าเกณฑ์สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ เช่น

• ค่ารักษาพยาบาล

• ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟู

• ค่าสินไหมทดแทนจากการสูญเสียรายได้ (ในอดีตและอนาคตโดยประมาณ)

• ค่าใช้จ่ายในการดูแลและบริการสนับสนุน

• ความเสียหายทั่วไป (ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน)

โครงการการประกันภัยการบาดเจ็บแห่งชาติ (National Injury Insurance Scheme)

ในปี 2559 รัฐบาลควีนส์แลนด์ได้เปิดตัว National Injury Insurance Scheme (Queensland) Act 2016 (Queensland) พระราชบัญญัตินี้กำหนดให้โครงการการประกันภัยการบาดเจ็บแห่งชาติในรัฐควีนส์แลนด์มีเป้าหมายคือเพื่อให้การรักษา การดูแล และการสนับสนุนตลอดชีวิตแก่บุคคลที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงส่วนบุคคล โดยไม่คำนึงถึงความผิด

ในปัจจุบันนี้ แผนการนี้ใช้เฉพาะกับการบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เท่านั้น

เวลาอันจำกัด

ในรัฐควีนส์แลนด์ โดยทั่วไปแล้วผู้บาดเจ็บจะมีเวลาสามปีนับจากวันที่ได้รับบาดเจ็บในการเริ่มต้นดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ (จะมีเฉพาะในกรณีพิเศษเท่านั้นที่สามารถขยายเวลาอันจำกัดนี้ได้ ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป) นอกจากนี้ยังมีกรอบเวลาเพิ่มเติมที่ต้องระวังเมื่อยื่นคำร้องต่อจำเลยสำหรับอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะที่ไม่ปรากฏชื่อ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องขอคำแนะนำทางกฎหมายโดยเร็วที่สุดหลังจากเกิดอุบัติเหตุ

ทีมงานของเราเป็นทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านการบาดเจ็บส่วนบุคคลที่สามารถช่วยเหลือคุณในการเรียกร้องของคุณบนพื้นฐาน ‘ไม่ชนะคดีไม่มีค่าใช้จ่าย’ หากคุณต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการเรียกร้องการบาดเจ็บส่วนบุคคล โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเรามา โดยผ่านช่องทาง ดังนี้

ข้อความ (Direct message)

Email: Wapir@littles.co

หรือติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0478 770 556

(คุณอ๋อง วลัญช์ อภิรัตน์เกษม)

Like? Share it with your friends.

Contact the Author

Topics

More Articles